Post info


Comments 0


Author: SiamUsedSax


ไวเบรโต ผู้ผลิตเครื่องดนตรีแซ็กโซโฟนจากวัสดุโพลีเมอร์ เผยก่อนสิ้นปีนี้พร้อมจัดส่งสินค้าล็อตแรก 200 ชิ้น ตั้งเป้าราคาขายต่ำกว่า 1 หมื่นบาท

นายปิยพัชร์ ธัญญะกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไวเบรโต จำกัด เปิดเผยถึง เครื่องดนตรีอัลโต้แซ็กโซโฟนจากวัสดุโพลีเมอร์ ว่า หลังจากใช้เวลาพัฒนาร่วม 7 ปี ผลิตภัณฑ์ล็อตแรก 200 ตัว พร้อมจะออกสู่ตลาดในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยเป็นการผลิตตามคำสั่งซื้อของร้านค้าทั้งในและต่างประเทศ ทั้งยังเป็นการทดสอบระบบการผลิตเชิงพาณิชย์ ก่อนที่จะทำการตลาดอย่างเต็มรูปแบบในเร็วๆ นี้
บริษัทได้ผลิตแซ็กโซโฟนโพลีเมอร์ทดแทนวัสดุทองเหลืองเป็นครั้งแรกของโลก และยื่นขอจดสิทธิบัตรในไทยและสหรัฐแล้ว เครื่องดนตรีพลาสติกนี้จะจำหน่ายในราคาไม่ถึง 10,000 บาท น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ขณะที่แซ็กโซโฟนทองเหลืองราคา 40,000 บาทขึ้นไป และน้ำหนักกว่า 2.5 กิโลกรัม
”ราคาที่ถูกกว่าแซ็กโซโฟนทองเหลือง จะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงเครื่องดนตรีชิ้นนี้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะมือใหม่หัดเล่น และการเรียนการสอนในโรงเรียน ขณะเดียวกัน ยังเป็น “ของเล่น” สำหรับนักแซ็กโซโฟนตลอดจนนักดนตรีทั่วไป สำหรับใช้ทดแทนเครื่องทองเหลือง ซึ่งต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น แคมป์ในป่า ริมทะเลหรือเป่าเล่นในกลุ่มเพื่อน” นายปิยพัชร์ กล่าวและว่า ในส่วนของคุณภาพเสียง แม้จะไม่เทียบเท่าแซ็กโซโฟนทองเหลือง แต่เป็นไปตามมาตรฐานของตัวโน้ต ผลงานแซ็กโซโฟนโพลีเมอร์เป็น 1 ใน 6 ผลงานที่ได้รับรางวัลไทยสร้างสรรค์ โดยสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (OKMD) แบ่งเป็น 2 สาขาๆ ละ 3 รางวัล สาขางานออกแบบ ได้แก่ แซ็กโซโฟนโพลีเมอร์ บริษัท ไวเบรโต จำกัด เฟอร์นิเจอร์ในห้องน้ำ บริษัท บาธรูมดีไซน์ จำกัด เฟอร์นิเจอร์ร่วมสมัย บริษัท พลาเน็ท 2001 จำกัด สาขางานฝีมือและหัตถกรรม ได้แก่ ผ้าทอย้อมสีธรรมชาติ บริษัท ไทยนำโชค เท็กซ์ไทล จำกัด พรมใยปอทักเสริมหินนวดเท้า บริษัท พีคฌาน จำกัด และโคมไฟไม้ไผ่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กรกต อินเตอร์เนชั่นนอล ผลงานทั้ง 6 นี้ได้รับเงินรางวัลละ 1 แสนบาท และจะเข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ณ วังสวนจิตรลดา อีกทั้งระหว่างวันที่ 24-30 ก.ย. OKMD จะจัดนิทรรศการรางวัลไทยสร้างสรรค์ โดยนำเสนอ 20 ผลงานเข้ารอบ ซึ่งรวมถึง 6 ผลงานที่ได้รับรางวัลข้างต้นด้วย ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร

ข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ

0 ความคิดเห็น:


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.